ข่าวใหม่ :

Forex คืออะไร?

Forex คืออะไร? สรุปสั้นๆ เข้าใจง่าย! มือใหม่ต้องรู้ 2024

“Forex” หรือที่เรียกกันว่า “ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ” เป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจและได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปสามารถซื้อขายสกุลเงินจากทั่วโลกได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในบทความนี้ พี่ยักษ์จะพาคุณไปทำความรู้จักว่า Forex คืออะไร? และทำไมถึง Forex ถึงน่าลงทุน

Forex (Foreign Exchange) เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีปริมาณการซื้อขายสกุลเงินมากถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน ตลาด Forex ไม่มีที่ตั้งทางกายภาพเหมือนตลาดหุ้น แต่เป็นการลงทุนผ่านระบบดิจิทัลที่เชื่อมโยงนักลงทุนจากทั่วโลก โดยที่ผู้เข้าร่วมตลาดอาจเป็นได้ทั้งธนาคารกลาง สถาบันการเงิน นักลงทุนมืออาชีพ ตลอดจนบุคคลทั่วไป

ในตลาด Forex การซื้อขายสกุลเงินจะเกิดขึ้นในรูปแบบของคู่สกุลเงิน เช่น EUR/USD หรือ USD/JPY ซึ่งนักลงทุนสามารถทำการซื้อ (Buy) หรือขาย (Sell) โดยอาศัยความแข็งค่าหรืออ่อนค่าของสกุลเงินนั้นๆ กำไรหรือขาดทุนที่ได้จากการเทรด Forex จะมาจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างคู่สกุลเงินที่นักลงทุนเลือก ว่าแต่… คู่ Forex มีกี่ประเภท? อะไรบ้าง? ไปดูกันเลย 

คู่เงิน Forex ประกอบด้วยสองสกุลเงินที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งในการเทรด นักลงทุนจะซื้อสกุลเงินแรก (Base Currency) และขายสกุลเงินที่สอง (Quote Currency) อัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate) ระหว่าง 2 สกุลเงิน เป็นตัวแสดงว่าต้องใช้สกุลเงินที่สองจำนวนเท่าใดเพื่อซื้อสกุลเงินที่หนึ่ง 

โดยคู่เงินฟอเร็กซ์แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้

1. Major Pairs (คู่เงินหลัก)

คู่เงินประเภทนี้จะมีเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ประกอบอยู่ด้วย ซึ่งเป็นคู่ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในตลาด Forex และมักจะมีสภาพคล่องสูง ตัวอย่างของคู่เงินหลัก ได้แก่:

  • EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ)
  • USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น)
  • GBP/USD (ปอนด์สเตอร์ลิง/ดอลลาร์สหรัฐ)
  • AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐ)

2. Minor Pairs (คู่เงินรอง)

เป็นคู่เงินที่ไม่รวมสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมักมีปริมาณการซื้อขายต่ำกว่าคู่เงินหลัก ตัวอย่างเช่น:

  • EUR/GBP (ยูโร/ปอนด์สเตอร์ลิง)
  • AUD/NZD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์นิวซีแลนด์)
  • GBP/JPY (ปอนด์สเตอร์ลิง/เยนญี่ปุ่น)

3. Exotic Pairs (คู่เงินแปลกใหม่)

คู่เงินประเภทนี้ประกอบด้วยสกุลเงินหลักและสกุลเงินจากประเทศที่มีเศรษฐกิจด้อยกว่า อาจเป็นสกุลเงินที่ไม่คุ้นเคยกันมากเท่าไหร่ โดยมักมีอัตราการซื้อขายต่ำกว่า ทำให้มีความเสี่ยงสูง ตัวอย่างของคู่เงินแปลกใหม่ได้แก่:

  • USD/THB (ดอลลาร์สหรัฐ/บาทไทย)
  • EUR/TRY (ยูโร/ลีราเตอร์คีย์)
  • USD/ZAR (ดอลลาร์สหรัฐ/ริงกิตแอฟริกาใต้)

1. การเข้าถึงง่าย

ตลาด Forex เป็นตลาดที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงใน weekdays ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดได้ทุกเวลา การเทรดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ก็ง่ายและสะดวก สามารถเทรดได้จากที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้

2. เลเวอเรจสูง

Forex มีระบบเลเวอเรจที่ให้นักลงทุนสามารถเทรดด้วยเงินทุนที่น้อยกว่ามูลค่าที่แท้จริงของการซื้อขาย ซึ่งช่วยให้สามารถเพิ่มผลกำไรได้อย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม การเลเวอเรจสูงก็สามารถนำไปสู่การขาดทุนที่มากขึ้นได้เช่นกัน

3. สภาพคล่องสูง

ตลาด Forex มีสภาพคล่องสูง นักเทรดสามารถซื้อหรือขายสกุลเงินได้ตลอดเวลา นักลงทุนสามารถทำธุรกรรมขนาดใหญ่ได้โดยไม่มีผลกระทบต่อราคามากนัก

4. ความหลากหลายในการลงทุน

ตลาด Forex มีคู่สกุลเงินให้เลือกมากมาย นักลงทุนเลือกเทรดสกุลเงินที่ตนสนใจหรือตามแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกได้ไม่ยาก

5. การวิเคราะห์และเทคนิค

นักลงทุนสามารถใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขาย โดยมีเครื่องมือการวิเคราะห์มากมายที่สามารถช่วยในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาด

การเทรด Forex ไม่ใช่เพียงแค่การซื้อและขาย การศึกษาข้อมูลและการเตรียมตัวอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญมากก่อนเริ่มลงทุน เพื่อป้องกันความเสี่ยง คุณควร:

  • ศึกษาเกี่ยวกับตลาด Forex อาจเริ่มจากการอ่านหนังสือหรือคอร์สออนไลน์เพื่อเรียนรู้พื้นฐาน
  • ทดลองบัญชี Demo การใช้บัญชีเดโม่จะช่วยให้คุณสามารถฝึกการเทรดได้โดยไม่ต้องใช้เงินจริง
  • วางแผนการลงทุน ตั้งเป้าหมายและกลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมกับสไตล์และวิธีการของคุณ
  • ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ ข่าวสารเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการเมืองสามารถส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน ควรติดตามข้อมูลล่าสุดเพื่อใช้ในการตัดสินใจ

1. การเลือกโบรกเกอร์

การเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญ คุณควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโบรกเกอร์ เช่น ระเบียบการควบคุม การให้บริการ และค่าธรรมเนียมต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้ทำงานกับแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ

2. การบริหารจัดการความเสี่ยง

การบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด นักลงทุนควรกำหนด Stop Loss และ Take Profit อย่างชัดเจน เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุน

3. ขาดความรู้หรือทักษะ

การเทรด Forex ต้องการความรู้ความเข้าใจในตลาด การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐาน หากขาดประสบการณ์หรือการศึกษาอาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาด นักลงทุนควรใช้เวลาในการเรียนรู้และศึกษาก่อนเริ่มเทรด

4. ความผันผวนของตลาด

ตลาด Forex มีความผันผวนสูง ราคาของคู่เงินสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ข้อมูลเศรษฐกิจ ข่าวสารและเหตุการณ์ต่างๆ อาจส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนอย่างมาก นักเทรดควรเตรียมตัวรับมือและวางแผนการเทรดอย่างรอบคอบ

การเทรด Forex เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนสร้างรายได้ที่น่าสนใจ เนื่องจากการเข้าถึงตลาดที่ง่าย ปริมาณซื้อขาย และสภาพคล่องที่สูง อยู่ที่ไหนก็สามารถเทรดได้ มีเครื่องมือต่างๆ ให้มือใหม่ลงทุนได้ไม่ยาก แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ต้องระวัง การเตรียมตัวให้ดี มีความรู้ในการเทรด และการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาด Forex ได้มากขึ้น

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือข้อชี้แนะด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ นักลงทุนควรศึกษาและขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณรับทราบและเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

สารบัญ

โบรกเกอร์ ยอดนิยม

โพสที่เกี่ยวข้อง